Spartacus: Vengeance (2012) ยังคงถึงเลือด แต่ถึงเนื้อ?

มาแล้วครับ มาตามคำมั่นสัญญาว่าต้นปีจะได้เจอกัน ในคืนวันศุกร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา Spartacus ฤดูกาลใหม่ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Vengeance ก็ได้ฤกษ์ออกอากาศทางช่องสตาร์ซอีกครั้ง
ก่อนอื่นต้องขอเคลียร์ข้อเท็จจริงก่อนว่าฤดูกาลนี้เขาถือเป็นฤดูกาลที่ 2 ของ Spartacus ไม่ใช่ฤดูกาลที่สามนะครับ ฤดูกาลแรกนั้นคือ Blood and Sand ถูกต้องแล้ว ส่วน Gods of the Arena ที่ออกอากาศไปเมื่อปีที่แล้วนั้นเป็นแค่หนัง Prequel หรือฤดูกาล 0 เท่านั้นเอง

Spartacus นี่เป็นหนังทีวีที่ใครๆได้ดูตอนแรกต่างร้องยี้ ไม่เห็นมีดีอะไร แค่ขายความโหดแล้วก็เนื้อหนังมังสาเท่านั้น แต่ดูไปเรื่อยๆก็ติดงอมแงมกันทั้งนั้น จนตอนนี้ หนังชุดนี้มีแฟนๆติดตามอุ่นหนาฝาคั่งไม่แพ้หนังทีวีดังชุดอื่นๆ
แต่อย่างที่บอกไปตอนเขียนถึง Gods of the Arena ว่าในฤดูกาลใหม่นี้ หนังทีวีชุดนี้มีจุดอ่อนหลายอย่าง หนึ่งคือบาติอาตั้ส ตัวเอกหลักที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดยจอห์น ฮันนานั้นได้จากแฟนๆไปอย่างเด็ดขาด ไม่กลับมาใหม่อย่างลูครีเชีย ภรรยาเขาอีกแล้ว จอห์น ฮันนาเป็นเสาหลักของหนังทั้งสองฤดูกาล ขาดเขาไปร่ำๆเหมือนจะขาดใจเลยทีเดียว

แถมพระเอกก็ยังเปลี่ยนใหม่ เพราะแอนดี้ วิทฟิลด์ พระเอกดั้งเดิมพ่ายแพ้แก่โรคมะเร็ง ฤดูกาลใหม่จึงได้สตีเฟ่น เจอราร์ด.. เอ๊ย! เลียม แมคอินไตยมาเล่นแทน ขาดทั้งตัวร้ายหลัก ขาดทั้งพระเอกดั้งเดิม เท่านี้ก็ว่าแย่แล้ว ที่ไหนได้ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นแค่นี้ เลสลีย์ แอน แบรนด์ สาวสวยที่เล่นเป็นเนเวีย คนรักของคริซั้สซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในฤดูกาลนี้ (เพราะเขาต้องออกตามหาเธอ) ก็จากเราไปเช่นกัน อันนี้ไม่ใช่เพราะบทถูกหั่น หรือคนเล่นป่วย แต่เพราะเจรจากันไม่ลงรอย

ไอ้เจรจากันไม่ลงรอยนี่แหละที่บ่งชี้ปัญหาหลายอย่าง ที่สำคัญเลยคือบอกว่าหนังไม่มีทุน แล้วมันก็ไม่มีทุนจริงๆเพราะฤดูกาลนี้ถูกหั่นตอนลงเหลือแค่ 10 ตอนจากของเดิมฤดูกาลแรกที่ยาวถึง 13 ตอน และเพียงแค่ฉากเปิดเรื่อง เราก็เห็นชัดเลยว่าความเนี๊ยบมันเทียบฤดูกาลแรก หรือ Gods of the Arena ไม่ได้
หนังทีวีนี่ พอโด่งดังขึ้นมาก็มักมีปัญหากับนักแสดงเหมือนที่เกิดกับเลสลีย์ แอน แบรนด์นี่เสมอ หลายคนคิดว่าแฟนๆติดแล้วก็เริ่มโก่งค่าตัว หรือไม่ยอมรับค่าตัวน้อยลงเวลางบหนังถูกตัด บางคนก็ถอนตัวไปเลยอย่างเธอ บางคน อย่างแคธรีน่า ลอว์ที่เล่นเป็นมิร่า คู่รักของสปาร์ตาคั้ส หรือบรุ๊ค วิลเลี่ยมส์ที่เล่นเป็นออรีเลีย เมียเพื่อนซี้สปาร์ตาคั้ส ก็เปลี่ยนไปใช้แทคติคอื่นซึ่งจะพูดถึงต่อไป

สปาร์ตาคั้สตอนนี้เป็นตอนต่อจาก Blood and Sand หลังจากในตอนสุดท้ายของฤดูกาลแรกที่สปาร์ตาคั้สนำทาสลุกฮือเข่นฆ่าคนในบ้านบาติอาตั้สจนหมด ตอนนี้คือตอนที่สปาร์ตาคั้สจะต้องต่อสู้เอาตัวรอดกับกองทัพโรมัน เป็นตอนที่เดินเรื่องตามประวัติศาสตร์ของจริงซึ่งน่าจะจบฤดูกาลตรงศึกใหญ่ระหว่างสปาร์ตาคั้สกับเกลเบ้อร์ คู่อริเก่า ที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เช่นกัน

เริ่มเรื่องฤดูกาลที่สอง สปาร์ตาคั้สและพวกยังเป็นแค่กลุ่มกองโจรเล็กๆที่หลบหนีนักฆ่ารับจ้างที่เมืองคาปัวส่งมาไล่ล่า แต่เพราะคนไล่ล่าไม่เคยจับสปาร์ตาคั้สได้แถมยังกลายเป็นศพเองอยู่เสมอ ชื่อเสียงของสปาร์ตาคั้สเลยเริ่มเป็นที่หวั่นเกรงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุด ทางโรมก็ต้องส่งคนลงมาปราบ
แต่ไม่มีใครอยากปราบกองโจรทาสกลุ่มเล็กๆเพราะมันไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ไม่ได้เป็นวีรบุรุษเหมือนยกกองทัพไปตีได้บ้านได้เมือง หน้าที่นี้จึงตกเป็นของเกลเบ้อร์คู่อริเก่า ในฐานะเป็นตัวต้นเรื่องที่จับสปาร์ตาคั้สมาแต่แรก

เกลเบ้อร์จึงต้องนำทัพมาเมืองคาปัวอย่างเสียไม่ได้ เขาใช้บ้านร้างของบาติอาตั้สซึ่งตั้งอยู่บนชัยภูมิดีเป็นที่ตั้งกองทัพ อิลิเธียภรรยาคนสวยถูกบังคับให้ร่วมเดินทางมาด้วย และเธอก็จะได้พบกับลูครีเชีย คู่อริเก่าที่รอดชีวิตมาจากการสังหารหมู่อย่างเหลือเชื่อ
และแน่นอน ในเมื่อเกลเบ้อร์คุมทัพมาเอง มีหรือที่สปาร์ตาคั้สจะไม่ถือโอกาสล้างแค้น?

ในฉากสุดท้ายของเรื่อง เกลเบ้อร์นำลูครีเชียมาเปิดตัวให้ชาวเมืองคาปัวได้เห็นกลางตลาด ในฐานะปาฎิหารย์จากพระเจ้าที่ไม่ยอมให้ทาสอย่างสปาร์ตาคั้สมีชัยชนะเหนือชาวโรมัน ในขณะที่สปาร์ตาคั้สก็แอบซุ่มอยู่กลางฝูงชนนั้นเพื่อรอโอกาสลงมือ
ฉากนี้จบตรงสปาร์ตาคั้สลงมือไม่สำเร็จ หนึ่งเพราะเกลเบ้อร์มีผู้คุ้มกันมากเกินไป สองเพราะเป็นการโง่เขลาที่จะฆ่าเกลเบ้อร์ซึ่งเป็นแม่ทัพจากกรุงโรมในตอนนี้ ในตอนที่พวกทาสหลบหนีแค่รวมตัวกันอย่างหลวมๆ การฆ่าเกลเบ้อร์มีแต่ทำให้โรมโกรธแค้นและส่งกองทัพใหญ่ขึ้นมาซึ่งพวกทาสไม่เข้มแข็งพอสู้ได้ ..นี่จึงทำให้สปาร์ตาคั้สได้คิด
ทางเดียวที่เขาไม่ต้องหลบหนีกองทัพโรมันหัวซุกหัวซุนคือต้องสร้างกองทัพของตัวเองขึ้นมา

Spartacus: Vengeance ตอนแรกยังคงเป็น Spartacus ที่เรารู้จักกันดี ตัวละครเก่าๆที่ไม่ตายกลับมาครบทั้งสปาร์ตาคั้ส, คริซั้ส, เกลเบ้อร์, อิลิเธีย, ลูครีเชีย แถมตัวละครใหม่อย่างเซฟเฟีย สาวโรมันก๋ากั่นกับเซฟฟิอั้ส พี่ชายของเธอผู้มีหน้าที่ไล่ล่าสปาร์ตาคั้ส ความรุนแรงและความลามกก็กลับมาเช่นกัน ทั้งสองอย่างมีแต่หนังทีวีชุดนี้ที่ผสมมันได้กลมกลืนสุด ไม่ต้องดูอื่นไกล ในตอนแรกนี้มีอยู่ฉากหนึ่งที่ชายชาวโรมันยืนดูคุณตัวโดนรุมในซ่องด้วยความกลัดมันพร้อมกับช่วยตัวเองไปด้วย ขณะแหงนหน้าขึ้นกำลังจะถึงจุดสุดยอดก็โดนดาบเสียบเข้าที่คอหอยพอดี ในชั่วพริบตานั้น ความรุนแรงกับความลามกเข้ามาบรรจบกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ
หากใครชอบความรุนแรง ฤดูกาลนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

แต่สำหรับคนชอบความลามก มันเริ่มมีสัญญาณไม่ดี ไม่รู้เป็นเพราะงบโดนหั่นมาก หรือตัวแสดงเก่าๆมีอำนาจมากขึ้น หรือ? แต่เราจะเห็นตัวละครอย่างมิร่าที่เคยเปิดเผยโล่งโจ้งในฤดูกาลแรก หรือออรีเลียที่มีบทควรเปิดเผย กลับกระมิดกระเมี้ยนเจี๋ยมเจี้ยมผิดสังเกตุ อย่างฉากรักระหว่างมิร่ากับสปาร์ตาคั้สมีความพยายามหลบบังด้วยมุมกล้องและผ้าปิดกายอย่างเห็นได้ชัด หรือฉากออรีเลียถูกจับได้ ถูกทรมาน ถูกรุม ถูกลากทึ้งโดยทหารโรมันแต่เสื้อผ้ายังคงอยู่ครบ แค่เปื้อนนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ถึงกับฉีกขาดจนเปิดให้เห็นอะไร

นี่คือความพยายามพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหนังชุดนี้ในสองฤดูกาลก่อน ความพยายามที่จะปกปิดเนื้อหนังมังสาของผู้แสดง แม้กระทั่งอิลิเธียก็ดูสงบเสงี่ยมขึ้น มีความพยายามปกปิดท่อนล่างของเธอมากขึ้น อันนี้ใครอาจหาว่าผมคิดมาก หรือไม่ก็อยากดูเกินไปแน่ๆ แต่เปล่าเลยครับ มันมีหนังบางเรื่องที่ผมรู้สึกในทางตรงกันข้าม อย่าง Game of Thrones ที่บางครั้งพยายามใส่ฉากอย่างว่าเข้ามามากเกินไปจนมันไม่เข้ากับหนัง ทำให้รสชาติเสียไป แต่กลับหนัง Spartacus นี่มันตรงกันข้าม ยิ่งพยายามปกปิดยิ่งดูไม่เหมือน Spartacus คนเดิมที่เรารู้จัก และยิ่งทำลายเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของหนังชุดนี้

แต่อันนี้ยังสรุปไม่ได้ว่ามันจะเป็นอย่างที่ผมสังเกตุทั้งฤดูกาลหรือไม่เพราะนี่เพิ่งเป็นแค่ตอนแรก เดี๋ยวได้ดูไปเรื่อยๆคงรู้กันเองว่าจะเป็นอย่างที่รู้สึกมั้ย?
ตอนที่สอง (ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา) บทบาทของลูครีเชียเริ่มเด่นขึ้นเรื่อยๆ ตอนเขียนถึง Gods of the Arena ผมเคยตั้งความหวังกับบทของเธอไว้ว่า "ความร้ายกาจของลูครีเชีย (ซึ่งเชื่อว่าในฤดูกาลใหม่ เธอจะร้ายสุดโต่ง อาจถึงขั้นยั่วเกลเบ้อร์จนอิลิเธียอกแตกก็ได้" แล้วดูเหมือนผมจะไม่ผิดหวัง
ในตอนแรกของฤดูกาลใหม่ ลูครีเชียถูกเกลเบ้อร์ใช้เป็นเครื่องมือเรียกขวัญกำลังใจของคนในเมืองคาปัวกลับคืนมา แสดงให้คนคาปัวเห็นว่าสปาร์ตาคั้สไม่ใช่ยักษ์มารอย่างที่เชื่อ ขนาดฆ่าผู้หญิงไร้ทางสู้ยังฆ่าไม่ได้ การเอาลูครีเชียออกมาให้ชาวเมืองคาปัวชมกลางตลาดในฐานะปาฏิหารย์จากพระเจ้าทำให้ชาวเมืองคาปัวเห็นลูครีเชียเป็นสิ่งมหัศจรรย์เสียเอง

ยิ่งลูครีเชียเริ่มติงต๊องจากการเหตุการณ์สังหารหมู่ เธอยิ่งยึดเอาศรัทธาของฝูงชนมาไว้เป็นหลักเดียวในชีวิต อุทิศตนให้กับปรารถนาของพระเจ้า ทำตัวเป็น"ผู้ส่งสาส์น"
แล้วในโลกสมัยโบราณ ไม่มีใคร แม้แต่นักการเมืองใหญ่ มีอำนาจเท่าคนที่ส่งสาส์นคุยกับพระเจ้าได้
ทำไปทำมา แผนการใช้ลูครีเชียเป็นเครื่องมือของเกลเบ้อร์กลับยิ่งสร้างอำนาจให้ลูครีเชีย แล้วตอนนี้ก็เห็นชัดว่าอิทธิพลของเธอเริ่มครอบงำเขาเข้าให้แล้ว

เลยน่าสนใจว่าเธอนี่หรือเปล่า? ที่สุดแล้วจะเป็นตัวการสำคัญพาเขาไปพบจุดจบกับเงื้อมมือของสปาร์ตาคั้สที่ริมเขาวิสุเวียสตามที่บรรยายไว้ในประวัติศาสตร์?
ในตอนนี้ อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเช่นกันคือเรื่องราวของสปาร์ตาคั้ส เรื่องของทาสที่ลุกขึ้นสู้การกดขี่ ส่วนที่เป็นแอ๊กชั่นของหนังที่เต็มไปด้วยเลือด ชักสนุกสู้เรื่องราวของชาวโรมันที่ไล่ล่าเขาไม่ได้ เรื่องราวส่วนนี้ใสสะอาดปราศจากกลิ่นอายของเลือด แต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง เล่ห์กลเพทุบาย การเห็นเหล่าทาสเข้าจู่โจมชาวโรมันแบบสโลว์โมชั่นเริ่มไม่สนุกเท่าการดูการเชือดเฉือนคมกันของลูครีเชียกับอิลิเธีย การเอาแพ้เอาชนะทางการเมืองของเกลเบ้อร์กับเซฟฟิอั้ส ที่มีหน้าที่ไล่ล่าสปาร์ตาคั้สทั้งคู่
ยิ่งเรื่องราวของแอนิเมอั้สที่เป็นส่วนสำคัญของตอนนี้ ยิ่งดูจืดชืดไปเลย
จุดเดียวที่ทำให้เรื่องราวของแอนิเมอั้สมีความสำคัญขึ้นมาคือเป็นตัวที่แสดงให้เห็นว่าเอาเข้าจริง ลูครีเชียก็ไม่ได้เป็นบ้าอย่างที่แสดง
แท้จริงแล้ว เธอกำลังหลอกใช้ทุกคนที่คิดหลอกใช้เธออยู่ต่างหาก..